วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

โหระพา


โหระพา ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum basilicum Linn. อยู่ในวงศ์ LABIATAE มีชื่ออื่นๆ อิ่มคิมขาว (ฉาน-แม่ฮ่องสอน) เป็นไม้ล้มลุก สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม กิ่งอ่อนสีม่วงแดง ใบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่หรือรูปรี กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 4-6 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมน ขอบจักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ ดอกสีขาวหรือชมพูอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ยาว 7-12 เซนติเมตร ใบประดับสีเขียวอมม่วงจะคงอยู่เมื่อเป็นผล กลีบดอกโคยเชื่อมกัน ปลายแยกเป็น 2 ส่วน เกสรตัวผู้ 4 อัน ผล ขนาดเล็ก

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum basilicum Linn.

ชื่อภาษาอังกฤษ : Sweet Basil, Thai Basil

ชื่ออื่นๆ : กอมก้อ (เหนือ อีสาน) นางพญาร้อยชู้ โหระพาไทย โหระพาเทศ ห่อกวยซวย

วงศ์ : LABIATAE

นิเวศวิทยาของโหระพามีถิ่นกำเนิด เอเชีย แอฟริกา ขึ้นดีในดินร่วน แดดจัด โหระพาออกดอก ตลอดปี ขยายพันธุ์โดยใช้ เมล็ด หรือ ปักชำกิ่ง

ประโยชน์

ใบสด มีน้ำมันหอมระเหย เช่น methyl chavicol และ linalool ฯลฯ ขับลมแก้ท้องอืดเฟ้อ ใช้เป็นอาหาร แต่งกลิ่นอาหาร แต่งกลิ่นสำอางบางชนิด เมล็ดเมื่อแช่น้ำจะพองเป็นเมือก เป็นยาระบาย เนื่องจากไปเพิ่มจำนวนกากอาหาร (bulk laxative)

ลักษณะพืช

พืชล้มลุก อายุหลายปี สูง 0.3-0.9 เมตร ลำต้นกิ่งก้านเป็นเหลี่ยม สีม่วงหรือแดงเข้ม ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือวงรี ขอบใบหยักฟันเลื่อย ดอกสีขาว ออกที่ปลายยอด ผลแห้ง มี 4 ผลย่อย เมล็ดเล็กเท่าเมล็ดงา สีน้ำตาลเข้ม โหระพาเป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย แต่แพร่หลายทั้งในเอเชียและตะวันตก ทางตะวันตกนิยมบริโภคใบแห้ง น้ำสลัดใช้โหระพาเป็นส่วนผสมเป็นน้ำสลัดที่คู่กับอาหารอิตาเลียน ในอเมริกาก็นิยมบริโภค โดยโหระพามาจากอียิปต์ ฝรั่งเศส และแคลิฟอเนีย มีกลิ่นแตกต่างกันกับของไทย

การใช้ประโยชน์ทางยา

- ใบสด : แก้ท้องอืด เฟ้อ ขับลมจากลำไส้ ต้มดื่มแก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร - ตำพอกหรือประคบแก้ไขข้ออักเสบ แผลอักเสบ

- ยอดอ่อนตำปิดแผลงูกัด

- ต้มกับน้ำนมราชสีห์ รับประทานเรียกน้ำนม

- ตำกับแมงดาตัวผู้ รับประทานและพอกแก้พิษคางคก

- ใช้ใบและต้นสดประมาณ 6-10 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม แก้หวัด ขับเหงื่อ

- นำใบแห้งเก็บไว้ ต้มน้ำให้เดือด แล้วต้มใบแห้ง 10-20 นาที ดื่มวันละ 3 ถ้วยต่อวัน มีสรรพคุณต้านเชื้อก่อโรคด้วย

- เด็กปวดท้องใช้ใบโหระพา 20 ใบ ชงน้ำร้อนและนำมาชงนมให้เด็กดื่ม ปลอดภัยกว่ายาขับลมที่ผสมแอลกอฮอลล์ ไม่ควรใช้กับเด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ หรือผู้ใหญ่อายุมากว่า 65 ปี

- ใบโหระพาเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคร้าย เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็ง โหระพา 1 ขีด มีเบต้าแคโรทีนสูง คือ 452.16 ไมโครกรัม ร่างกายผู้ใหญ่ต้องการเบต้าแคโรทีน 800 ไมโครกรัม เราไม่กินใบโหระพามากมายนัก แต่เบต้าแคโรทีน มีอยู่ในผักใบเขียวเข้มทุกชนิด การกินผักให้มากที่สุดโดยกินโหระพาไปด้วยจะทำให้เราได้เบต้าแคโรทีน เพียงพอ

- ใบโหระพามีกลิ่นเฉพาะใช้เป็นผักสด ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารและมีธาตุแคลเซียมสูงด้วย

ใบโหระพามีน้ำมันหอมระเหย ร้อยละ 1.5 องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญ คือ (Methylcha vicol) และสกัดได้จากใบโหระพาพันธุ์ไทย โดยการกลั่นด้วยไอน้ำ มีลักษณะเป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อน หรือเหลืองอมน้ำตาลปราศจากตะกอนและสารแขวนลอย ไม่มีการแยกชั้นของน้ำ มีกลิ่นเฉพาะตัว มีคุณสมบัติแก้จุกเสียดแน่นท้อง น้ำมันหอมระเหยช่วยการย่อยอาหารเนื้อสัตว์ ช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยให้สบายท้องขึ้น น้ำมันโหระพา มีกลิ่นหอมหวาน มีคุณสมบัติช่วยให้สงบ มีสมาธิ ลดอาการซึมเศร้า มีข้อควรระวังในการใช้ในสปา คือ ทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

โหระพาช้าง Ocimim gratissimum Linn. หรือ กะเพราญวณ จันทร์หอม เนียมตัน เนียมยี่หร่า เป็นไม้พุ่มสูงคล้ายโหระพาแต่มีขนาดใหญ่กว่า ใบโหระพาช้างมีข้อแตกต่างจากโหระพาเนื่องจากมีสารสำคัญในน้ำมันหอมระเหยต่างกัน ใบโหระพาช้างมียูจีนอล (Eugenol) เป็นสารหลักทำให้ไม่นิยมใช้ประกอบอาหารเท่าโหระพา

การปลูกและขยายพันธุ์

- พันธุ์การค้า-จัมโบ้ เป็นพันธุ์ที่มีใบใหญ่ นิยมทั่วไป พันธุ์พื้นเมืองมักมีกลิ่นหอมแรง

- การเตรียมดิน ไถดินให้ลึก 30-40 ซม. ตากดิน 2 อาทิตย์ ย่อยดินให้ละเอียดใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ให้มีอินทรียวัตถุสูง ดินร่วน มีความชื้นในดินสูง และแสงแดดปานกลาง การปลูกใช้ระยะปลูก ระยะระหว่างต้น 25 ซม. ระหว่างแถว 50 ซม. ให้น้ำสม่ำเสมอ

- ใช้กิ่งปักชำในกระบะทราย หรือแกลบดำชื้นในที่ ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ย้ายปลูกได้ หรือเพาะด้วยเมล็ด อาจใช้วิธีหว่านเมล็ดให้ทั่วแปลง ใช้ฟางกลบ หรือปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้วโรยทับบางๆ รดน้ำตามทันทีด้วยบัวรดน้ำตาถี่ในกระบะเพาะชำ กล้าเจริญเติบโดสูงประมาณ 10-15 ซม. จึงย้ายปลูก

- การเก็บเกี่ยว ใช้มีดคมๆ ตัดกิ่งที่เจริญเติบโตเต็มที่ อายุเก็บเกี่ยว 50 วัน หลังหยอดเมล็ดสามารถเก็บเกี่ยวได้หลายครั้ง ผลผลิต 4-6/ตัน


Back

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Powered By Blogger